อัพเดทข้อมูล..

ปรับข้อมูลสมาชิก..

อัพโหลดรูปภาพ..
0%
แจ้งโอนที่นี่
logo
 
กรองการค้นหา
 ค้นหา
หมวดย่อย

แบรนด์



ขนาด

สี

ราคา






จัดเรียง



กรองการค้นหา
 ค้นหา
จัดเรียง



ราคา






สี

ขนาด

แบรนด์



หมวดย่อย

บทความ แม่และเด็ก CT_008 ชุดคลุมท้อง แฟชั่นแห่งความสุขที่แท้จริงของผู้หญิงทุกคน  สินค้าขนาดเดียว

ชุดคลุมท้อง ให้นม

ชุดคลุมท้อง แฟชั่นแห่งความสุขที่แท้จริงของผู้หญิงทุกคน

ชุดคลุมท้อง แฟชั่นแห่งความสุขที่แท้จริงของผู้หญิงทุกคน     ชุดคลุมท้อง เป็นยูนิฟอร์มที่มาพร้อมกับบทบาทใหม่ที่ผู้หญิงทุกคนปรารถนาที่จะได้รับนั่นคือ บทบาทของ " แม่ " ตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในองค์กรเล็กๆที่เรียกว่า" บ้าน "  และเมื่อไหร่ที่ผู้หญิงได้ทำหน้าที่นี้แล้วมันจะกลายเป็นหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่และจะต้องปฏิบัติภารกิจของตัวเองไปจนลมหายใจสุดท้าย  ดูเหมือนนี่จะเป็นงานเดียวในโลกที่ไม่มีโอกาสได้เลื่อนขั้น เพื่อไปอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าและไม่สามารถที่จะลาออกได้ตลอดชีวิต   และมันน่าแปลกใจมากที่ผู้หญิงทุกคนบนโลกปรารถนาที่จะได้ยึดตำแหน่งนี้เอาไว้ให้ได้นานที่สุด  แม้จะไม่ได้ให้ผลตอบแทนเป็นทรัพย์สินเงินทอง  แต่เชื่อว่าความสุขใจที่ผู้หญิงทุกคนได้รับมันมีมูลค่ามหาศาล จนไม่สามารถเปรียบกับสิ่งมีค่าใดบนโลกได้                   ถ้าถามว่า ชุดอะไรที่สร้างความสุขให้กับชีวิตของผู้หญิงทุกคน  ชุดแรกคงหมายถึงชุดรับปริญญาในวันจบการศึกษา  ชุดที่ 2 หมายถึงชุดแต่งงานในวันที่เราได้พบกับคู่ชีวิตที่แท้จริง  และชุดที่ 3 คือชุดคลุมท้องสิ่งที่จะทำให้ความสุขและความสมบูรณ์ในชีวิตของผู้หญิงเกิดขึ้นอย่างแท้จริงและจะเป็นอยู่เช่นนั้นตลอดไป  ความแตกต่างของชุด 3 แบบนี้อยู่ที่ 2 ชุดแรกเป็นชุดที่เราสวมใส่เพียงครั้งเดียว  และสามารถหาเช่ามาใส่ได้ เมื่อใช้งานเสร็จแล้วก็ส่งคืนร้าน  ความประทับใจที่เกิดขึ้นก็จะถูกเก็บบันทึกเอาไว้ในภาพถ่าย  แต่ชุดคลุมท้องคือชุดที่จะต้องสวมใส่ต่อเนื่องไปอีก 9 เดือนหลังจากซื้อมาแล้ว  และชุดนี้จะสร้างความสุขและความประทับใจและจะเป็นภาพความทรงจำที่ดีที่สุดในชีวิตของผู้หญิงตลอดไป และชุดนี้ จะให้ความสุขกับผู้หญิง แบบที่ไม่มีเสื้อผ้าแบรนด์ดังจากดีไซเนอร์คนไหนจะสามารถสร้างให้เราได้                หลายคนตั้งคำถามเกี่ยวกับชุดคลุมท้องว่ามันมีความจำเป็นแค่ไหน อยากให้ทุกคนลองมองย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่เราสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่พอดีกับสรีระ คับไปก็อึดอัด  หลวมไปก็ขาดความมั่นใจ  แม้ว่าสถานะของเราตอนนั้นจะถือว่าเป็นคนที่สวยสมบูรณ์แบบแต่เมื่อได้อยู่กับเสื้อผ้าที่ไม่เข้ากับบุคลิกรูปร่างและสรีระในตอนนั้น  ก็ยากที่เราจะแสดงความสุขออกมาทางสีหน้าโดยไม่รู้สึกวิตกกังวลกับสิ่งที่เราสวมใส่อยู่  ไม่ต่างกันกับชุดคลุมท้องที่ต้องสอดคล้องกับสถานะของเราในวันนี้  ในเมื่อชีวิตน้อยๆกำลังก่อตัวอยู่ในครรภ์ของเราสิ่งที่เราจะต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดคือการปกป้องชีวิตได้น้อยๆนี้ให้ปลอดภัยและมีความสุขที่สุด  อีกทั้งเรายังคงต้องดูแลความสวยงามและความเหมาะสมกับสถานะภาพของตัวเองในเวลานั้น  เมื่อไหร่ที่เราได้สวมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย เข้ากับสรีระและเหมาะสมกับโอกาส  เราก็จะเกิดความสุขแบบอัตโนมัติและความสุขนี้จะถูกส่งผ่านไปยังลูกในท้อง  ในเวลานี้ ถ้าเรายิ้มก็ไม่ได้ยิ้มเพียงคนเดียว  เพราะเจ้าตัวน้อยในท้องก็กำลังยิ้มกับเราด้วย  และถ้าเรามีความสุขก็ไม่ได้สุขเพียงคนเดียว  เพราะเจ้าตัวเล็กในท้องก็กำลังมีความสุขกับเราด้วย                  การออกแบบชุดคลุมท้องจึงจำเป็นที่จะต้องมองถึงสรีระและความต้องการทั้งในระยะสั้นและระยะยาวของผู้สวมใส่เป็นหลัก  ไม่มีใครปรารถนาที่จะละทิ้งเสื้อผ้าที่มีคุณค่าที่สุดในชีวิตสำหรับผู้หญิงทุกคนไปอย่างน่าเสียดาย  เพราะฉะนั้นถ้าคุณแม่มือใหม่รู้จักที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองตั้งแต่ในช่วงของเวลาตั้งครรภ์ 9 เดือนผ่านไปหลังจากที่เราคลอดชีวิตน้อยๆออกมาเสื้อผ้าชิ้นนั้นก็ยังจะสามารถกลับมาสร้างความทรงจำที่ดีที่สุดในชีวิตให้กับเราได้อย่างต่อเนื่อง  เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ว่าการเลือกซื้อชุดคลุมท้องไม่ควรที่จะมองเพียงแค่ในระยะเวลาสั้นๆ  ในระหว่างการตั้งครรภ์เพียงแค่ 9 เดือนเพราะหลังจากนั้นถ้าเรารู้จักที่จะเลือกชุดคลุมท้องที่สามารถใส่ได้ในทุกๆโอกาสและยังทำให้เราดูดีได้  เราก็ยังสามารถนำชุดเหล่านั้นกลับมามิกซ์แอนด์แมตช์ ให้กลายเป็นเสื้อผ้าที่จะสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน  นอกจากนี้การเลือกเนื้อผ้าและลวดลายที่ยังให้ความสดใหม่และเป็นเนื้อผ้าประเภทที่ดูแลง่าย  ลวดลายทันสมัยไม่มีวันหมดอายุ  ไม่แน่ว่าการตั้งครรภ์เจ้าตัวเล็กคนต่อไป  เราอาจจะไม่ต้องซื้อชุดคลุมท้องอีกเลย เพราะเรามีชุดคลุมท้องที่สวยงามและทันสมัยอยู่เสมอ
0 ฿
บทความ แม่และเด็ก CT_007 เรื่องที่คุณแม่ 2018 ต้องรู้และ “ชุดให้นม” เพื่อคุณแม่ยุคใหม่ที่บอกเลยว่าของมันต้องมี !!! สินค้าขนาดเดียว

ชุดคลุมท้อง ให้นม

เรื่องที่คุณแม่ 2018 ต้องรู้และ “ชุดให้นม” เพื่อคุณแม่ยุคใหม่ที่บอกเลยว่าของมันต้องมี !!!

เรื่องที่คุณแม่ 2018 ต้องรู้และ “ชุดให้นม” เพื่อคุณแม่ยุคใหม่ที่บอกเลยว่าของมันต้องมี !!! สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับคุณแม่ คุณพ่อ คุณน้า คุณอา คุณป้า ที่กำลังจะมีลูก มีหลานเป็นของตัวเอง กันแล้ว ตื่นเต้นกันมั้ยเอ่ยยยย? วันนี้เรามีเกร็ดความรู้ที่คุณแม่ยุคใหม่ทุกคนควรรู้มาฝากกันค่ะ แล้วก็จะมาแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ “ชุดให้นม” สุดเจ๋งสำหรับคุณแม่ด้วย อย่ารอช้าตามมาเล้ยยยย นมแม่ดีที่สุด และผู้ช่วยคนใหม่ของคุณแม่อย่าง “ชุดให้นม” จากงานวิจัยและคำบอกเล่าของคุณหมอหลายๆ ท่าน ทำให้ได้ข้อสรุปที่ตรงกันว่าเด็กแรกเกิดนั้นควรที่จะได้กินนมแม่ในช่วงหลังคลอดที่เป็นน้ำนมสีเหลือง เพราะมีคุณประโยชน์ต่อเจ้าตัวเล็กอย่างมาก เช่น ช่วยให้เจ้าตัวเล็กมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรคต่างๆ ได้ดี เพราะมีแกมมาโกลบูลิน-จี ที่ช่วยระงับการขยายตัวของเชื้อโรค มีโปรตีนสูง มีธาตุเหล็ก ช่วยเรื่องการสร้างเม็ดเลือดแดง ช่วยเพิ่มแล็กโตบาซิลลัสที่มีประโยชน์ ลดแบคทีเรียอีโคไล บำรุงสมองของทารกได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการให้นมลูกน้อยในครั้งแรกของคุณแม่จึงเป็นเรื่องสำคัญที่มากๆ พอเวลาผ่านไปสักระยะนึงบางบ้านก็อาจจะเริ่มให้ลูกน้อยกินนมชงจากขวดแทนนมแม่จากเต้า แต่คุณหมอก็บอกไว้อย่างชัดเจนว่าต้องให้เจ้าตัวเล็กได้กินนมจากเต้าอย่างต่ำเป็นระยะเวลา 6 เดือน เพราะนมแม่ธรรมดาที่ไม่ใช่น้ำนมสีเหลืองก็ยังมีประโยชน์มากกว่านมผง ยกตัวอย่างสารอาหารที่มีประโยชน์แก่ลูกในน้ำนมของแม่ เช่น กรดอะมิโนทอรีน โปรตีนที่ช่วยบำรุงสมองและสร้างจอตาของทารกให้สมบูรณ์ มีประสิทธิภาพ มีกรดไขมันที่มีประโยชน์สำหรับเด็กที่กำลังเจริญเติบโต มีเอ็นไซม์ไลเปสที่แปลงไขมันในนมแม่ให้กลายเป็นพลังงาน มีสารภูมิคุ้นกัน และฮอร์โมน มีสารกระตุ้นการเติบโตของเส้นประสาทและสมอง เนื่องจากช่วง 6 เดือนแรกเป็นช่วงที่ทารกกำลังเติบโต อวัยวะและระบบในร่างกายบางอย่างยังเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่ การที่ทารกได้รับสารอาหารจากน้ำนมแม่จึงช่วยในเรื่องของการเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี อีกทั้งนมแม่ยังย่อยได้ง่ายกว่านมผงเหมาะกับเด็กน้อยที่ระบบย่อยอาหารยังไม่สมบูรณ์ และอีกเรื่องที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็คือ การที่แม่โอบกอดลูกน้อยระหว่างให้นมนั้นเป็นการกระตุ้นประสาทสัมผัส กระตุ้นสมองเจ้าตัวเล็ก ช่วยให้มีพัฒนาการที่ดีต่อไป อย่างที่บอกไปแล้วว่า 6 เดือนคือขั้นต่ำ แต่เอาเข้าจริงๆ หากคุณแม่สามารถให้นมลูกด้วยตัวเองได้นานมากกว่านั้นก็ยิ่งดี มาถึงตรงนี้แล้วหลายคนอาจจะกำลังนึกภาพคุณแม่ที่ต้องอยู่ติดบ้าน พอลูกน้อยร้องหิวนมทีก็ต้องถกเสื้อ ปลดเสื้อในเพื่อป้อนนมเจ้าตัวเล็กที หรือยิ่งถ้าเป็นคุณแม่ที่มีธุระต้องออกจากบ้าน แล้วพาเจ้าตัวเล็กไปด้วย การให้นมลูกก็ยิ่งดูเป็นเรื่องยุ่งยาก ดูลำบากทุลักทุเลใช่มั้ยล่ะคะ แน่นอนว่า “ชุดให้นม” ของเราช่วยเหล่าคุณแม่ได้แน่นอนค่ะ เพราะชุดให้นมของเรานั้นถูกออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ จากดีไซน์การตัดชุดที่ทำให้คุณแม่สามารถแหวกเสื้อด้านข้างได้อย่างสะดวก เมื่อถึงคราวที่ต้องให้นมเจ้าตัวเล็ก ก็ไม่ต้องลำบากเลิกเสื้อให้สูง หรือปลดกระดุมเสื้อให้ลำบากอีกต่อไป ชุดให้นมนี้คุณแม่ก็แค่แหวกเสื้อด้านข้างเท่านั้นก็ให้นมลูกน้อยได้แล้ว ไม่ต้องกลัวว่าจะโป๊นะคะ เพราะเราออกแบบมาให้เซฟกับตัวคุณแม่ที่สุด รับรองว่าสามารถให้นมเจ้าตัวเล็กในที่สาธารณะได้แบบชิลๆ ไม่ต้องเขินต้องอายคนอื่นแน่นอน คุณแม่ยุคใหม่สวยได้ทันสมัยด้วย ชุดให้นม “แม่เลี้ยงลูก” หลายคนอาจจะนึกภาพผู้หญิงคนนึงที่ต้องอดหลับอดนอน สวมชุดโคร่งๆ เลี้ยงลูกอยู่บ้าน แต่เป็นคุณแม่ 2018 ทั้งที แถมยังมีชุดให้นมดีไซน์สวยเก๋ของเราด้วยแล้วจะปล่อยให้ตัวเองโทรมไม่ได้นะคะ งั้นขอทิ้งท้ายด้วยเกร็ดความงามเล็กๆ น้อยๆ ให้คุณแม่ยุคใหม่หน่อยก็แล้วกัน ไม่แต่งตัวโทรม เลือกใส่เสื้อผ้าสีสดใส อย่างชุดให้นมของเราก็มีแบบ มีสีให้เลือกได้ตามแฟชั่น รับรองว่าสวยสมกับที่เป็นคุณแม่ยุคใหม่แน่นอน สลับให้ลูกกินนมทั้งสองข้าง เพราะถ้าให้ลูกกินนมแค่ข้างเดียวเดี๋ยวนมจะไม่เท่ากันเอาน้า เผลอๆ ท่อน้ำนมจะอุดตันได้อีก ห้ามลดน้ำหนัก อย่าลืมว่าแม่เป็นแหล่งอาหารโดยตรงของลูก ดังนั้นในช่วงให้นมลูกก็จะต้องกินอาหารที่มีประโยชน์ อย่าเพิ่งลดน้ำหนักเพราะจะต้องใช้พลังงานสูง ถ้ารีบลดตอนนี้ก็จะยิ่งโทรมเอาได้ แถมลูกยังจะได้สารอาหารไม่พออีกด้วย ออกกำลังกายอย่างเบา เช่น การเดิน จัดเต็มความรู้ขนาดนี้แล้วอย่าลืมนำไปใช้หรือบอกต่อเหล่าคุณแม่ด้วยกันนะคะ ที่สำคัญคือคุณแม่ที่ต้องการความสะดวกสบาย ทันยุคทันสมัย ก็ลองซื้อ “ชุดให้นม” จาก NJ Closet ของเราไปใช้ดูนะคะ รับรองว่าจะไม่ผิดหวัง หรือคุณพ่อ คุณน้า คุณอาทั้งหลายจะซื้อชุดให้นมดีไซน์เริ่ดๆ ของเราเป็นของขวัญให้คุณแม่ 2018 ก็ได้น้า บอกเลยว่าของมันต้องมีจริงจริ้งงงงง และนอกจากชุดให้นมแล้ว ชุดคลุมท้องสวยๆ ก็มีนะจ๊ะ
0 ฿
บทความ แม่และเด็ก CT_006 เสื้อให้นม ความลงตัวของฟังก์ชั่นและแฟชั่น สินค้าขนาดเดียว

เสื้อให้นม แบบแหวกข้าง

เสื้อให้นม ความลงตัวของฟังก์ชั่นและแฟชั่น

เสื้อให้นม ความลงตัวของฟังก์ชั่นและแฟชั่น เสื้อให้นมไอเทมสุดฮิต   สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่ชาญฉลาด  และพร้อมเสมอสำหรับการกลับเข้าสู่สถานะภาพของการทำงานนอกบ้านโดยควบตำแหน่งแม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด    เทคนิคการออกแบบที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของฟังก์ชันของแม่และแฟชั่นของผู้หญิงทำงานยุคใหม่  ที่เตรียมพร้อมรับมือกับทุกๆสถานการณ์ได้อย่างยอดเยี่ยมเสมอ  และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียการแต่งตัวเพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ  พร้อมกับการได้ทำหน้าที่แม่อย่างยอดเยี่ยม   เพื่อสร้างความสำเร็จให้กับชีวิตผู้หญิงทุกคนโดยไม่ต้องละทิ้งสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปอย่างน่าเสียดาย เพราะทั้งสองหน้าที่นี้สามารถทำพร้อมกันได้อย่างลงตัว  ซึ่งความสำเร็จในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อสองสิ่งนี้เดินหน้าไปอย่างยอดเยี่ยมพร้อมกัน ถ้าใครที่ทำงานประจำคงรับรู้รสชาติของการต้องทำหน้าที่แม่ให้สมบูรณ์แบบที่สุด  พร้อมกับการทำงานที่ต้องสมบูรณ์แบบไม่แพ้กัน  ด้วยภาระและหน้าที่ทำให้ในเวลานี้เราไม่สามารถที่จะแยกตัวออกจากงานเพื่อมาทำหน้าที่แม่ได้  เพราะฉะนั้นวิธีการรับมือกับความก้ำกึ่งตรงนี้จึงจำเป็นที่จะต้องใช้นวัตกรรมบางอย่างร่วมด้วย โดยปกติบริษัทผู้ว่าจ้าง  ที่เป็นเจ้านายของคุณแม่มือใหม่ ได้มีข้อกำหนดในการลาคลอดในระยะเวลา 1.5 ถึง 3 เดือน ซึ่งระยะเวลาที่บริษัทกำหนดอาจจะไม่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้แม่เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมตัวเอง  เพราะฉะนั้นเราจึงจะได้เห็นแม่ลูกอ่อนหลายคนที่ต้องมาทำงานพร้อมกับอุปกรณ์เสริมเป็นชุดอุปกรณ์ปั๊มน้ำนมสำหรับเวลาที่ร่างกายผลิตน้ำนมออกมาแล้วไม่ได้ให้ทารกดื่มกินทันที  คุณแม่มือใหม่จะมีการจัดเตรียมอุปกรณ์เหล่านี้มาอย่างที่ทำงาน  และจะปั๊มน้ำนมแช่เย็นเอาไว้สำหรับเก็บไปให้ลูกดื่มในช่วงเวลาหลังเลิกงานยาวต่อเนื่องไปจนถึงอีกหนึ่งวันทำงาน  ซึ่งกลายเป็นวัฏจักรของการให้นมบุตรด้วยน้ำนมตัวเองทางอ้อม เมื่อเป็นเช่นนี้  วิธีการที่ง่ายที่สุดคือการเตรียมพร้อมตั้งแต่ออกจากบ้านด้วยการมองหาเสื้อผ้าที่เอื้ออำนวยให้กับการทำกิจกรรมปั๊มน้ำนมในระหว่างวัน  เสื้อให้นม จึงตอบโจทย์ตรงนี้ได้อย่างลงตัวที่สุดไม่ว่าจะเป็น เสื้อให้นมแบบเปิดหน้า  เสื้อให้นมแบบแหวกข้าง หรือ เสื้อให้นมแบบผูกไขว้  เสื้อทั้ง 3 รูปแบบนี้จัดเป็นแฟชั่นยอดนิยมสำหรับคุณแม่มือใหม่เพราะมันสะดวกสบายมากสำหรับการปั๊มนมหรือแม้กระทั่งการให้นมบุตรในที่สาธารณะ  ด้วยเทคนิคการออกแบบที่เอื้ออำนวยให้เราสามารถป้อนนมลูกในที่สาธารณะได้อย่างไม่โป๊และไม่เคอะเขิน  ซึ่งจะทำให้เราทำหน้าที่แม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ  อีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายของสาธารณะสุขที่อยากจะให้เด็กๆทุกคนได้ดื่มนมจากอกแม่ เสื้อให้นม จึงกลายเป็นอีกหนึ่งไอเทมสุดจำเป็นสำหรับคุณแม่มือใหม่ทุกคนที่ยังอยู่ในช่วงเวลาของการให้นมบุตรไม่ว่าจะเป็นการให้โดยตรงหรือจะเป็นการปั๊มนมเก็บเอาไว้ในระหว่างวัน  เสื้อผ้าแฟชั่นเหล่านี้จะตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว ยิ่งไปกว่านั้นด้วยการออกแบบที่เน้นสรีระซึ่งกำลังเปลี่ยนแปลงของคุณแม่มือใหม่ทุกคน  ทำให้การสวมใส่ไม่อึดอัดเหมาะกับทุกๆอิริยาบถ  และค่อนข้างเบาสบายเมื่อสวมใส่  และมักจะเป็นเนื้อผ้าที่ดูแลทำความสะอาดง่ายเมื่อซักเสร็จเพียงแค่สะบัดแล้วตากไม่จำเป็นต้องรีบเพราะเราเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของคุณแม่ทุกคนเพราะแค่การเป็นแม่ให้สมบูรณ์แบบก็กินเวลาพักผ่อนไปกว่าครึ่งเพราะฉะนั้นการเลือกใส่เสื้อผ้าที่ดูแลรักษาง่ายไม่จำเป็นต้องรีบก็พร้อมที่จะออกไปสวมใส่ได้ทันที  แถมยังดูดีใช้ได้กับทุกโอกาส เพราะฉะนั้น เสื้อให้นม จึงเป็นเทคนิคในการออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าสำหรับคุณแม่มือใหม่ ที่ให้คุณสมบัติยอดเยี่ยมทั้งฟังก์ชันและแฟชั่นอย่างลงตัวที่สุดรูปแบบหนึ่ง  และเชื่อมั่นว่ามันจะต้องถูกใจคุณแม่มือใหม่ทุกคนอย่างแน่นอน  
0 ฿
บทความ แม่และเด็ก CT_005 10 เคล็ดลับการให้นมบุตร ของคุณแม่หลังคลอด สินค้าขนาดเดียว

NJ Closet

10 เคล็ดลับการให้นมบุตร ของคุณแม่หลังคลอด

10 เคล็ดลับการให้นมบุตร ของคุณแม่หลังคลอด การให้นมบุตร ของคุณแม่หลังคลอดเป็นเรื่องปกติสำหรับการเป็นคุณแม่ เพราะธรรมชาติได้สร้างให้ร่างกายของคุณแม่มีน้ำนม เพื่อใช้เลี้ยงดู แต่บางครั้งการให้นมลูกก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคุณแม่บางคน เพราะบางที น้ำนมคุณแม่ก็ไหลน้อยหรือไม่ไหลเลย ไม่มีนมแม่พอให้ลูกกิน ดังนั้นคุณแม่ที่พบปัญหาเหล่านี้ เรามีเคล็ดลับการให้นม มาฝากกันค่ะ 10 เคล็ดลับการให้นมบุตร ของคุณแม่หลังคลอด 1.ก่อนและหลังคลอด อย่าเช็ดล้าง หรือ ถูทำความสะอาด บริเวณหัวนมมากเกินไป เพราะการทำความสะอาดบริเวณนั้นมากเกินไปอาจทำให้หัวนมแห้งหรือแตก ซึ่งเป็นเหตุให้น้ำนมไหลน้อย ลูกจึงไม่อยากดูดนมแม่ 2. ให้ลูกดูดนมทันทีหลังคลอด ใน 1-2 ชั่วโมง หลังคลอดควรให้ลูกดูดนมทันที เพื่อเป็นการกระตุ้น และใน 1-3 วันแรก ที่มีน้ำนมแม่ไหล น้ำนมจะเป็นสีเหลือง หรือที่เรียกว่า Colostrum ซึ่งอุดมไปด้วยประโยชน์สูงสุด ทารกแรกคลอดควรได้ดูดน้ำนมนี้ค่ะ 3. รู้จักจัดสรรเวลาเพื่อให้นมลูก ทารกแรกเกิดจะมีกระเพาะอาหารเล็กเท่าไข่ไก่จะดูดนมได้ที่ละน้อย ๆ แต่จะหิวบ่อย เพราะนมแม่ย่อยง่าย สังเกตได้จากการขับถ่าย ดังนั้นคุณแม่อาจต้องให้นมลูกบ่อย ๆ ในช่วงเดือนแรก ๆ อาจจะ 1-2 ชั่วโมงครั้งก็จะดีมากค่ะ เพราะลูกยิ่งดูดนมก็ยิ่งเป็นการกระตุ้นให้น้ำนมไหลดีค่ะ 4. ไม่ต้องกังวลว่าจะมีน้ำนมไม่พอให้ลูกกิน ลูกจะดูดนมได้พอกับความต้องการของลูกในแต่ละวัยอยู่แล้ว ยิ่งลูกโตขึ้นเรื่อย ๆ ดูดมากขึ้น น้ำนมก็จะไหลมากขึ้น ถ้าลูกปัสสาวะวันละ ไม่ต่ำกว่า 6 ครั้งถือว่าปกติ ลูกได้รับน้ำนมเพียงพอแน่นอนค่ะ 5. เรียนรู้เรื่องการให้นมแม่ว่ามีประโยชน์อย่างไร ถ้าคุณแม่มีทัศนคติที่ดีในการให้ลูกกินนมแม่ คุณแม่จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกได้กินนมแม่ เพราะในนมแม่มีสารอาหารที่มีประโยชน์จำเป็นสำหรับทารกมาก ๆ ค่ะ 6. การดูแลเต้านมและหัวนมให้อ่อนนุ่มพร้อมให้นมบุตรอยู่เสมอ ถ้าคุณแม่รู้สึกปวดเต้านม เต้านมคัด ควรใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบก็จะทำให้น้ำนมไหลดีขึ้นอาการปวดเต้านมก็ลดน้อยลง ถ้าหัวนมแตกสามารถใช้น้ำนมถูเบา ๆ ที่หัวนมเพื่อลดการอักเสบได้ค่ะ 7. ดื่มน้ำบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำอุ่น หรือน้ำเย็นสามารถดื่มได้หมดค่ะ น้ำเป็นส่วนสำคัญในการผลิตน้ำนม ยิ่งดื่มน้ำมาก น้ำนมก็ไหลดีมากขึ้นค่ะ 8. ลักษณะหัวนมเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าหัวนมคุณแม่บอด สั้น หรือคว่ำ การให้นมลูกอาจเป็นเรื่องยาก ถ้าไม่สามารถให้นมลูกได้จากหัวนมของคุณแม่ได้ คุณแม่ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ครอบนมเพื่อให้นมบุตรได้ค่ะ และยังสามารถให้นมบุตรได้ตามปกติอีกด้วย 9. ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะให้นมลูกถึงกี่ขวบ   เรื่องนี้คนในครอบครัวต้องช่วยกันให้กำลังใจด้วยค่ะ ถ้าคุณแม่หวังไว้แน่ๆว่าลูกต้องได้กินนมแม่ก็ควรจะทำตามที่ได้คาดหวังไว้ให้สำเร็จค่ะ 10. ตั้งเป้าหมายไว้และทำให้สำเร็จ คิดไว้เสมอค่ะ ว่าต้องการให้นมลูก ต้องการส่งผ่านความรักจากแม่ไปสู่ลูก คิดไว้เสมอว่ากินอะไร ดื่มอะไรน้ำนมจะไหลดี ถ้ามีความตั้งใจจริงน้ำนมแม่มีให้ลูกดูดพอแน่นอนค่ะ
0 ฿
บทความ แม่และเด็ก CT_004 11 อาหารเพิ่มน้ำนม สำหรับคุณแม่ สินค้าขนาดเดียว

NJ Closet

11 อาหารเพิ่มน้ำนม สำหรับคุณแม่

น้ำนมแม่คือสุดยอดอาหารที่ดีกับร่างกาย และสมองของลูก ฉะนั้นเรามาบำรุงน้ำนมแม่ให้มีปริมาณเพียงพอสำหรับใช้เลี้ยงลูกได้นานๆ ด้วยการทานอาหารที่มีส่วนผสมของพืชผักสมุนไพรทั้ง 11 ชนิดนี้กันค่ะ 1.อินทผลัมอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่ วิตามิน A, วิตามิน B1, วิตามิน B2, วิตามิน B6, วิตามิน K, แคลเซียม, ซัลเฟอร์, เหล็ก, โพแทสเซียม, ฟอสฟอรัส, แมงกานิส, แมกนีเซียม และไฟเบอร์ สำหรับคุณแม่ท้องใกล้คลอดหากจะทานอินทผลัมควรทานในช่วงเดือนสุดท้ายของไตรมาสที่สาม เพราะจะช่วยสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมดลูก ช่วยให้การบีบตัวของมดลูกในช่วงการคลอดได้ดี ในคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่ อินทผลัมช่วยเพิ่มสารอาหารสำคัญในน้ำนมแม่ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ลูกน้อยมีสุขภาพที่แข็งแรง 2.กะเพรามีคุณค่าทางสารอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส และมีเส้นใยอาหารสูง ความร้อนจากใบกะเพราจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ช่วยกระตุ้นให้มีน้ำนมมากขึ้น และยังแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ หวัด คลื่นไส้ อาเจียน เด็กที่ได้ทานนมแม่ก็จะได้รับสารอาหารเหล่านี้พร้อมกันไปด้วย 3.ใบแมงลักมีคุณค่าทางอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก แคลเซียม วิตามินบี รวมทั้งยังมีวิตามินซีสูง ในใบแมงลักจะมีรสหอมร้อน หากนำมาปรุงอาหาร เช่น แกงเลียง จะช่วยเพิ่มน้ำนม และยังช่วยขับลมแน่นอึดอัดในท้องได้ด้วย 4.ใบกุยช่ายมีคุณค่าทางสารอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก คาร์โบไฮเดรต แบต้าแคโรทีน และวิตามินซี สรรพคุณของใบกุยช่าย คือจะช่วยเพิ่มน้ำนม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม5.ใบตำลึงมีคุณค่าทางอาหารที่อุดมไปด้วย วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 1, 2, 3 แคลเซียม ไฟเบอร์ โปรตีน ธาตุเหล็ก สรรพคุณของตำลึงช่วยในกระบวนการบำรุงน้ำนม บำรุงเลือด บำรุงสายตา บำรุงระบบประสาท อาหารแนะนำ เช่น แกงจืดหมูบะช่อใบตำลึง แกงเลียง หรือนำมาผัดกับไข่ก็ได้ ฯลฯ 6.กานพลูมีรสร้อนเพิ่มการไหลเวียน และช่วยย่อย ที่สำคัญในดอกกานพลูจะมีน้ำมันยูจีนอล(Eugenol) ที่มีสรรพคุณช่วยเพิ่มน้ำนม บรรเทาอาการแน่น จุกเสียด ซึ่งคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่สามารถใช้ดอกกานพลูแห้งมาชงในน้ำเดือด แล้วกรองดื่มแต่น้ำก็จะช่วยในกระบวนการผลิตน้ำนมแม่ได้ดี 7.พริกไทยมีคุณค่าทางอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต พริกไทยจะมีรสร้อน ทำในการช่วยกระตุ้นให้น้ำนมไหลได้ดี และยังช่วยขับลม พริกไทยไม่ว่าจะใส่ในแกงเลียง หรือจะเป็นปลาผัดพริกไทยดำ, พริกไทยสด ถือเป็นอาหารยอดนิยมของคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกมาใหม่ ๆ ชอบรับประทานกันค่ะ8.หัวปลีมีคุณค่าทางอาหารที่อุดมไปด้วย โปรตีน ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส แบต้าแคโรทีน และวิตามินซี ที่สำคัญในหัวปลียังมีแคลเซียมมากกว่ากล้วยสุกถึง 4 เท่า ซึ่งหัวปลีจะช่วยในเรื่องของการบำรุงเลือด แก้โรคกระอาหาร และยังช่วยบำรุงน้ำนมแม่ได้ดีมากด้วยเช่นกัน อาหารแนะนำ เช่น ทอดมันหัวปลี แกงเลียง ยำหัวปลี หรือจะทานแกล้มเป็นผักสดคู่กับผัดไทย ฯลฯ9.มะละกอมีคุณค่าทางอาหารที่อุดมไปด้วย ไฟเบอร์ วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และมีแคลเซียมสูง รวมทั้งยังมีในเรื่องของเอนไซม์ที่จะช่วยสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย มะละกอจะช่วยเพิ่มน้ำนม บำรุงเลือด บำรุงกระดูก สายตา อาหารแนะนำ เช่น น้ำมะละกอปั่น แกงส้มมะละกอสด หรือจะทานสุกก็ได้ 10.ฟักทองมีคุณค่าทางอาหารที่อุดมไปด้วย แบต้าแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี และฟอสฟอรัส ฟักทองมีสรรพคุณในเรื่องของการช่วยบำรุงน้ำนม ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง อาหารที่แนะนำ ฟักทองผัดไข่ ฟักทองนึ่ง ฯลฯ 11.เมล็ดขนุนมีคุณค่าทางอาหารที่อุดมไปด้วย โปรตีน ไขมัน ธาตุเหล็ก คาร์โบไฮเดรต ฟอสฟอรัส และวิตามินบี 1 มีสรรพคุณ ช่วยกระตุ้นน้ำนม ทำให้น้ำนมมีมาก รวมทั้งยังช่วยบำรุงประสาท อาหารแนะนำ เช่น เมล็ดขนุนต้ม คุณแม่อย่าลืม ลองไปหาพืชผักสมุนไพรทั้ง 11 ชนิดมาทานนะคะ คุณแม่จะไได้มีนมให้ลูกน้อยดื่มเยอะๆ ทานได้นานๆ เพื่อสุขภาพที่ดีขอลเจ้าตัวเล็ก
0 ฿
บทความ แม่และเด็ก CT_003 เมนูอาหารแม่ท้อง กินบำรุงสมองลูกในครรภ์ สินค้าขนาดเดียว

NJ Closet

เมนูอาหารแม่ท้อง กินบำรุงสมองลูกในครรภ์

เมนูอาหารแม่ท้อง กินบำรุงสมองลูกในครรภ์    การเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ เป็นเรื่องพื้นฐานที่คุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคนควรปฏิบัตินะคะ อาหารที่คุณแม่กินเข้าไปนั้นจะถูกส่งผ่านถึงลูกโดยตรงเพื่อบำรุงร่างกายของลูกน้อยให้มีการเจริญเติบโตตามวัยและร่างกายคุณแม่ให้แข็งแรง แต่จะมีสารอาหารบางชนิดที่ร่างกายของคุณแม่และลูกน้อยมีความต้องการมากเป็นพิเศษในช่วงตั้งครรภ์ เพื่อสร้างเสริมพัฒนาการของลูกน้อย และบรรเทาอาการข้างเคียงของการตั้งครรภ์ ดังนี้ค่ะ 1. อยากให้ลูกฉลาด นอกจากลูกน้อยที่มีสมบูรณ์ แข็งแรง และสมวัยแล้ว การมีพัฒนาการของสมองที่ดี ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณพ่อและคุณแม่ควรให้ความสำคัญ ซึ่งคุณแม่สามารถกระตุ้นการทำงานของสมองลูกน้องตั้งแต่อยู่ในครรภ์ด้วยอาหารเหล่านี้ กรดไขมันโอเมก้า 3 มีส่วนช่วยในการกระตุ้นสมอง กระตุ้นระบบประสาท บำรุงเซลล์สมอง เพิ่มประสิทธิภาพความทรงจำ ปริมาณกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่คุณแม่ควรได้รับคือ 300 มิลลิกรัม/วัน ในช่วงไตรมาศที่ 2 ของการตั้งครรภ์ กรดโฟลิก เป็นอีกสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการเซลล์สมอง ระบบประสาท และไขสันหลังให้กับทารกในครรภ์มารดา ในกรณีที่ลูกได้รับกรดโฟลิกไม่เพียงพอต่อความต้องการ อาจส่งผลให้ทารกมีความพิการทางสมอง และเสี่ยงที่จะมีความผิดปกติของท่อประสาท ปริมาณกรดโฟลิก ที่คุณแม่ควรได้รับคือ 400-800 มิลลิกรัม/วัน ในช่วงไตรมาศแรกของการตั้งครรภ์ ไอโอดีน มีส่วนช่วยในการพัฒนาสมอง ระบบประสาท ความทรงจำของลูกน้อย ถ้าคุณแม่ได้รับไอโอดีนไม่เพียงพอต่อความต้องการ จะเกิดอาการคอพอก และส่งผลต่อทารกในครรภ์ ให้เสี่ยงต่อการมีร่างกายแคระแกร็น พัฒนาการทางสมองช้า สำหรับปริมาณไอโอดีนที่คุณแม่ควรได้รับคือ 175-200 มิลลิกรัม/วัน ในช่วงไตรมาศที่ 2-3 ของการตั้งครรภ์ เนื่องจากในช่วงนี้ต่อมไทรอยด์จะทำงานหนักขึ้น ทำให้ร่างกายต้องการไอโอดีนเพิ่มขึ้นค่ะ เมนูเด็ดบำรุงสมองลูกน้อย ปลานึ่ง โดยเฉพาะปลาทะเล เพราะอุดมด้วยโอเมก้า 3 และการนึ่งก็ยังคงรักษาสารอาหารไว้อย่างครบถ้วน ยำบล็อกโคลี่ ยอดคะน้า อาหารทะเล ผักใบเขียวอุดมไปด้วยกรดโฟลิก พร้อมกับอาหารทะเลที่มีไอโอดีน ครบถ้วนตามความต้องการในการบำรุงสมอง   2. อยากให้ลูกร่างกายแข็งแรง โปรตีนมีคุณสมบัติในการเสริมสร้างร่างกาย และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทั้งยังมีความสำคัญต่อการสร้างเซลล์ของทารกในครรภ์ มีความจำเป็นในการสร้างเซลล์สมอง ถ้าลูกน้อยได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ นอกจากจะมีร่างกายที่ไม่แข็งแรงแล้ว ยังอาจจะทำให้สมองมีขนาดเล็กผิดปกติ ส่งผลต่อการเรียนรู้ในอนาคต สำหรับปริมาณโปรตีนที่คุณแม่ควรได้รับคือ 60 กรัม/วัน ในช่วงทุกไตรมาศ ตลอดการตั้งครรภ์ เพราะโปรตีนเป็นสารอาหารหลักในการสร้างและเพิ่มขนาดของเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ สร้างน้ำย่อย เลือด และเสริมภูมิคุ้มกันด้วยค่ะ เมนูที่อุดมไปด้วยโปรตีน ไข่ต้มสุก แหล่งโปรตีนที่หาง่ายและมีประโยชน์ นม โดยเพิ่มความหลาย อาทิ นมวัว นมแพะ นมถั่วเหลือง เนื้อสัตว์ อาทิ เนื้อปลา หมู หรือไก่ ไม่แนะนำเนื้อวัวเพราะย่อยยาก จะทำให้มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้   3. การบำรุงเลือดคุณแม่ก็สำคัญ คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์จะมีความต้องการธาตุเหล็กเพิ่มมากขึ้นถึง 2 เท่า เพราะเหล็กช่วยเสริมการทำงานของเฮโมโกลบิน ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง ในการลำเลียงออกซิเจนไปสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย และยังเป็นบำรุงเลือดไม่ให้เกิดภาวะโลหิตจาง ซึ่งจะทำให้มีโอกาสคลอดก่อนกำหนด ทารกน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ หรือทารกมาภาวะโลหิตจาง ซึ่งไม่เป็นผลดีในระยะยาว ปริมาณธาตุเหล็ก ที่คุณแม่ควรได้รับคือ 30 มิลลิกรัม/วัน ในช่วงไตรมาศที่ 2-3 ของการตั้งครรภ์ เมนูแนะนำในการบำรุงเลือด ตับผัดพริกหวาน ตับและพริกหวานที่มีธาตุเหล็กสูง เหมาะกับการบำรุงเลือด ธัญพืชต้ม ลูกเดือย ถั่วต่างๆ สามารถเป็นอาหารเช้าอุ่นๆ บำรุงเลือดได้ดี   4. อาหารปราบแพ้ท้อง อาการแพ้ท้องเป็นอีกหนึ่งอาการที่พบมากในคุณแม่ที่เริ่มตั้งครรภ์ โดยจะมีอาการเวียนศีรษะ อาเจียน คลื่นไส้ ซึ่งในแต่ละคนก็จะมีอาการไม่เหมือนกัน นอกจากการดื่มน้ำอุ่นๆ มีขนมข้างกายรองท้องอยู่ตลอดเวลาแล้ว อาหารที่มีส่วนประกอบของวิตามินบี 6 ยังมีส่วนช่วยลดอาการแพ้ท้องได้ดีอีกด้วย ปริมาณวิตามินบี ที่คุณแม่ควรได้รับคือ 2.2 มิลลิกรัม/วัน ในช่วงไตรมาศแรกของการตั้งครรภ์ เมนูปราบอาการแพ้ท้อง ข้าวต้มข้าวโอ๊ต อุดมไปด้วยวิตามินบี 6 เป็นอาหารเช้าอุ่นๆ ช่วยลดอาการคลื่นไส้ และเวียนหัวได้อีกด้วย แซนวิชกล้วย อะโวคาโด  ของว่างระหว่างวันที่ไม่ให้ท้องว่างจนเกินไป และมีวิตามินบี 6   5. กินแก้ท้องผูก อาการท้องผูกในคุณแม่ตั้งครรภ์นั้น เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุแล้วต่างกันไปในแต่ละไตรมาศของการตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมน ขนาดของมดลูกที่ขยายขึ้นเบียดทับลำไส้ทำให้เกิดการสะสมของของเสีย พฤติกรรมการกินไม่เหมาะสม โดยคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอาการท้องผูกมากในระหว่างช่วงตั้งครรภ์ มักจะเป็นคนที่มีปัญหาท้องผูกมาก่อนการตั้งครรภ์อยู่แล้ว และถ้ารุนแรงอาจทำให้เป็นริดสีดวงทวารได้ค่ะ เมนูลดอาการท้องผูก แกงเลียงใส่ผักหลากชนิด ความเผ็ดร้อนของแกงเลียงช่วงทำให้ลำไส้มีการขยับช่วยในการขับถ่าย สลัดผัก อุดมไปด้วยไฟเบอร์ ช่วยในการขับถ่าย กุ้งลวกสุกราดมะนาว คุณแม่สามารถกินอาหารรสเปรี้ยวในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อกระตุ้นการขับถ่ายได้   6. เมนูแก้ตะคริว อาการตะคริวขณะตั้งครรภ์ถือเป็นเรื่องปกติค่ะ เพราะร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น การกดทับในบริเวณอุ้งเชิงกรานของมดลูก กล้ามเนื้อที่ฝืดเนื่องจากไม่ค่อยได้ขยับร่างกาย หรือแม้แต่การขาดแคลเซียมในช่วงไตรมาศสุดท้าย เนื่องจากทารกดึงแคลเซียมไปใช้ในการสร้ากระดูกและฟัน เหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดตะคริว โดยคุณแม่สามารถเสริมแคลเซียมได้ จากเมนูอาหารดังนี้ เมนูแก้ตะคริว ปลาตัวเล็กทอดกรอบ อุดมไปด้วยแคลเซียม เคี้ยวเล่นระหว่างวันก็เป็นตัวเลือกที่ดี ยำถั่วพู เนื่องจากถั่วพูนั้นเป็นแหล่งแคลเซียมชั้นดี นมสด สามารถดื่มได้ทุกวัน แต่ควรเป็นนมที่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์ ฆ่าเชื้อโรคแล้ว           การกินอาหารของคุณแม่ไม่ว่าจะกินเพื่อบำรุงสมอง บำรุงเลือด แก้อาหารท้องผูก หรือแม้แต่บรรเทาอาหารตะคริวนั้น ไม่ควรเจาะจงเพื่ออย่างใดอย่างหนึ่งมากจนเกินไป เช่น การกินแคลเซียมมากๆ เพื่อบรรเทาอาการตะคริว แต่เมื่อร่างกายได้รับแคลเซียมมากจนเกินไป ก็จะทำให้มีอาการท้องผูกได้ เราจึงขอแนะนำคุณแม่รับประทานให้หลากหลาย ในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อความสมดุลของร่างกายค่ะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.momypedia.com, http://www.mamaexpert.com, http://www.thaibreastfeeding.org  
0 ฿
บทความ แม่และเด็ก CT_002 นมแม่ มหัศจรรย์แห่งการส่งเสริมภูมิต้านทาน สินค้าขนาดเดียว

NJ Closet

นมแม่ มหัศจรรย์แห่งการส่งเสริมภูมิต้านทาน

นมแม่ มหัศจรรย์แห่งการส่งเสริมภูมิต้านทานนมแม่ คืออาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เพราะในทุกหยดน้ำนมแม่นั้นให้ทั้งคุณค่าด้านโภชนาการและการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน นมแม่ประกอบไปด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพหลายชนิด เช่น สารภูมิต้านทาน (Anitbody) และโปรตีนต่างๆ รวมทั้งแบคทีเรียที่ดีต่อระบบทางเดินอาหารของลูกน้อย ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังมีกรดไขมันจำเป็น ที่สำคัญต่อการพัฒนาระบบประสาทและสมอง เช่น DHA สารต่อต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินอีกด้วย สารอาหารในนมแม่มีความแตกต่างกันตามช่วงวัยและความต้องการทางร่างกายของลูกน้อย ลูกน้อยจะมีภูมิคุ้มกัน โดย การรับสารภูมิต้านทาน (Antibody) ผ่านทางนมแม่ ซึ่งช่วยให้ลูกน้อยสามารถปรับตัวสร้างภูมิต้านทานเพื่อปกป้องลูก จากสภาพแวดล้อมหรือปัจจัยต่างๆ ที่อาจมีผลต่อความเจ็บป่วยได้เนื่องจากวัยทารกระบบภูมิต้านทานต่างๆ ยังไม่สมบูรณ์ น้ำนมแม่โดยเฉพาะน้ำนมแรก ที่เรียกว่า “คอลอสตรัม” นั้น เป็นน้ำนมนี้ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายมากกว่า การเร่งการเจริญเติบโต จึงอุดมไปด้วยสารหลากหลายชนิดที่เสริมสร้างภูมิต้านทานให้ทารกน้อยน้ำนมแรก จึงเปรียบดัง วัคซีนหยดแรกที่ช่วยปกป้องทารกจากเชื้อไวรัสและการติดเชื้อต่างๆ มีฤทธิ์ช่วยระบายอ่อนๆ กระตุ้นการขับถ่ายอุจจาระแรก หรือขี้เทาออกจากลำไส้ของทารก ซึ่งอุจจาระจะมีลักษณะหนา และมีสีดำอมเขียว และยังช่วยป้องกันการเกิดดีซ่านด้วย นอกจากนั้น น้ำนมแรกยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารมีสุขภาพดีและอุจจาระจับตัวเป็นก้อนนิ่มๆ เพราะมีโอลิโกแซคคาไรด์ หรือ พรีไบโอติก พรีไบโอติก คือแหล่งอาหารสำคัญของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเรียกว่า โพรไบโอติก(Probiotics) การทำงานแบบ ซินไบโอติก ซึ่งพบในนมแม่ ช่วยส่งเสริมให้จุลินทรีย์สุขภาพในระบบทางเดินอาหารของลูกเติบโตได้ดี ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ก่อโรค ส่งผลต่อระบบภูมิต้านทานที่ดี 8 ส่วนประกอบ สร้างภูมิต้านทานในน้ำนมแม่ 1. อิมมูโนโกลบูลิน มีหน้าที่ตรวจจับและทำลายจุลินทรีย์ก่อโรคติดต่อซึ่งเป็นอันตรายต่อทารก ในขณะเดียวกันก็ทำการปกป้องจุลินทรีย์สุขภาพในลำไส้ของทารกน้อย 2. พรีไบโอติก เป็นอาหารที่ส่งเสริมการเจริญของจุลินทรีย์สุขภาพในลำไส้ของทารก และช่วยลดการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ก่อโรค 3. แลคโตเฟอริน มีบทบาทในการดูดซึมธาตุเหล็กและขวางไม่ให้แบคทีเรียได้รับธาตุเหล็ก 4. โปรตีน ดูดซึมวิตามินบี12 ซึ่งจะจับกับวิตามินบี12 และขัดขวางไม่ให้แบคทีเรียได้รับวิตามินบี12 5. บิฟิดัส แฟคเตอร์ มีหน้าที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์สุขภาพ “แลคโตบาซิลลัส บิฟิดัส” ในลำไส้ของทารก โดยปกป้องจุลินทรีย์ชนิดนี้ให้ปลอดภัยจากแบคทีเรียก่อโรค 6. ไฟโบรเนคติน ช่วยเร่งการทำงานของเซลเม็ดเลือดขาวในการทำลายเชื้อโรค และช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ได้รับความเสียหายเนื่องจากการอักเสบในลำไส้ 7. ฮอร์โมนและสารกระตุ้นการเจริญเติบโต จะกระตุ้นให้ลำไส้ของทารกพัฒนาเต็มที่เร็วขึ้นและลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อในลำไส้ 8. เซลล์เม็ดเลือดขาว จะหลั่งเอ็นไซม์ชื่อไลโซโซม ซึ่งย่อยสลายผนังเซลล์ของแบคทีเรียและทำลายแบคทีเรีย นอกจากนี้ ปริมาณธาตุอาหารหลัก ในน้ำนมแม่ช่วงระยะ 4 เดือนหลังคลอด ซึ่งได้แก่ โปรตีน ไขมัน น้ำตาลแลคโตส จะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปัจจัยทางร่างกายและสภาพแวดล้อมของคุณแม่ เช่น น้ำหนักตัว การมีประจำเดือน ปริมาณน้ำนม และอาหารที่คุณแม่รับประทาน การใส่ใจดูแลสุขภาพ เลือกรับประทานอาหารเพื่อคุณภาพน้ำนมที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญ มีการศึกษาพบว่าปริมาณ DHA ในน้ำนมแม่ ขึ้นอยู่กับปริมาณ DHA ที่แม่รับประทานเข้าไป เช่นเดียวกับปริมาณวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ การให้นมแม่ช่วยเสริมภูมิต้านทาน พัฒนาสมองและร่างกายให้ลูกน้อย ยังมีประโยชน์ ต่อตัวคุณแม่เองอีกมากมายด้วยค่ะ  การให้ลูกดูดนมแม่จะช่วยให้คุณแม่เผาผลาญพลังงาน ทำให้น้ำหนักตัวคุณแม่กลับสู่ปกติได้เร็ว ลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ ลดอาการวัยทอง ทำให้มดลูกกลับสู่ภาวะปกติเร็วขึ้น ลดปัญหาเต้านมคัด ตึง ช่วยส่งต่อความรักความผูกพันจากแม่สู่ลูกขอบพระคุณบทความดีๆจาก hifamilyclub
0 ฿